Conversation การสนทนา
Choose the best answer to complete the dialogues.
เลือกคำตอบที่มีที่สุดในบทสนทนา
Conversation 1 : Two roommates are trying to decide what to have for dinner.
Pat : I’m too tried to cook. ............... (1) ............... ?
Linda : That would be nice. ............... (2) ............... ?
Pat : Let’s go the Chinese restaurant againg. I like the food there.
Linda : But we just went there last week. ............... (3) ............... .
Pat : The Thai restaurant? You mean the one opposite the Chinese restaurant?
Linda : ............... (4) ............... . I think the food at the Chines restaurant is rather only.
............... (5) ............... . Besid, the Thai food at that place is very delicious.
Pat : ............... (6) ............... ? Have you ever eaten there before?
Linda : Yes. A Thai friend took me to lunch there last month.
Pat : OK. Let’s go there, then.
บทสนทนา 1 : เพื่อนร่วมห้องสองคน แพทและลินดากำลังพยายามตัดสินใจว่าจะไปทานข้าวเย็นที่ไหนดี
1. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Shall we have a rest 2. Let’s eat out tonight, okay
3. How about you 4. Whose turn is tonight
ตอบข้อ 2. Let’s eat out tonight, okay
คำอธิบาย บทสนทนาเริ่มด้วย แพท : “ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะทำกับข้าว .....?”
แพทเริ่มต้นพูดว่าเหนื่อยเกินกว่าจะทำกับข้าว ดังนั้นจึงน่าจะเอ่ยชวนไปทานอาหารเย็นนอกบ้าน ข้อ 2. คืนนี้ไปทานข้าวนอกบ้านดีกว่าไหม ข้อนี้ถูกต้อง ส่วนข้ออื่นๆ ไม่เข้ากับคำพูดของแพทก่อนหน้า
2. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Where would you like to go 2. Do you think we really are
3. Do we have enough time 4. Who would go with us
ตอบข้อ 1. Where would you like to go
คำอธิบาย ลินดา : “ก็ดีเหมือนกัน .....?”
แพท : “ไปที่ร้านอาหารจีนกันอีกดีกว่า ฉันชอบอาหารที่นั้น”
ดูจากคำตอบของแพทที่ชวนไปร้านอาหารจีน ลินดาจึงน่าจะถามว่าไปไหนดี ข้อ 1. “คุณอยากไปไหนล่ะ” จึงถูกต้อง ส่วนข้ออื่นๆ ไม่เข้ากับบทสนทนา
3. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. You may like to have Thai food, then
2. You can choose where you like to go
3. I’d rather go to the Thai restaurant instead
4. I’ve heard about a good Thai restaurant
ตอบข้อ 3. I’d rather go to the Thai restaurant instead
คำอธิบาย ลินดา : แต่เราเพิ่งไปที่ร้านนั้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว .......
แพท : ร้านอาหารไทยร้านนั้นนะเหรอ
คุณหมายถึงร้านที่อยู่ตรงข้ามร้านอาหารจีนนะเหรอ คำตอบที่แพทที่ถามว่าร้านอาหารไทยร้านนั้นนะหรือ แสดงว่า ลินดาต้องพูดว่าอยากไปร้านอาหารไทย ข้อ 3. จึงถูกต้อง
4. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. That’s right 2. Oh, come on
3. Really 4. That’s a good idea
ตอบข้อ 1. That’s right
คำอธิบาย ลินดา : ....... ฉันคิดว่าอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับอาหารจีนค่อนข้างจะมันไปหน่อย จากการที่แพทถามย้ำว่าใช่ร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามร้านอาหารจีนหรือเปล่า ลินดาจึงควรตอบว่า “ใช่แล้ว” ข้อ 1. จึงถูกต้อง That’s right = “ถูกต้องแล้ว”
5. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. But I like its atmosphere 2. I prefer Thai food to Chinese
3. And I don’t want to eat out 4. I enjoy all kinds of food
ตอบข้อ 2. I prefer Thai food to Chinese
คำอธิบาย ลินดา : ....... นอกจากนั้น อาหารไทยที่นั่นก็อร่อยมาก จากข้อมูลข้างหลังที่พูดถึงอาหารไทยที่ร้านนั้นอร่อยมาก ลินดาจึงน่าจะพูดที่เกี่ยวกับอาหารไทย ดังนั้น ข้อ 2. จึงถูกต้อง ข้อ 2. “ฉันชอบอาหารไทยมากกว่าอาหารจีน” ส่วนข้ออื่นๆ ไม่เกี่ยวกับอาหารไทย
6. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Are you hungry 2. How do you like the food
3. Can you hurry up 4. How do you know
ตอบข้อ 4. How do you know
คำอธิบาย แพท : .......? คุณเคยทานที่นั่นมาก่อนหรือ
ลินดา : ใช่ เพื่อนคนไทยพาฉันไปทานอาหารกลางวันที่นั้นเมื่อเดือนที่แล้ว
แพท : งั้นไปที่นั่นกันเถอะ
แพทถามตามว่าคุณเคยไปที่นั่นแล้วหรือ แพทจึงน่าจะถามว่า “รู้ได้ไง” ข้อ 4. จึงถูกต้อง
Conversation 2 : Andy bought a shirt from a department store. When he got home, he foung and ink spot on the collar, so he goes back to the store to return it.
Salesperson : Good afternoon, Sir. ............... (7) ...............?
Andy : Yes, I’d like to get a return for this shirt.
Salesperson : ............... (8) ..............., sir, bacause it was on sale.
Andy : Then can I talk to the manager?
Salesperson : I’m sorry he’s not in right now. Er ............... (9) ..............., sir?
Andy : There’s an ink spot on the collar.
Salesperson : ............... (10) ............... .
Andy : Can’t I get a refung?
Salesperson : ............... (11) ..............., sir. We can only exchange it for you.
Andy : All right, then. Thank you.
บทสนทนา 2 : แอนดี้ซื้อเสื้อเชิร์ตจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อเขากลับไปถึงบ้าน เขาพบรอยหมึกบนปกเสื้อ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ร้านเพื่อขอเปลี่ยนตัวใหม่
7. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Don’t you need help 2. Can I help you?
3. Are you looking for someone 4. Would you return the shirt
ตอบข้อ 2. Can I help you?
คำอธิบาย บทสนทนาเริ่มด้วย พนักงานขาย : “สวัสดีครับ .......?”
แอนดี้ : “ใช่ ผมอยากได้เงินคืน (refund) สำหรับเสื้อเชิร์ตตัวนี้”
เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านพนักงานขายมักจะถามว่า “Can I help you?” หรือ “May I help You?” ซึ่งความหมายว่า “จะให้ช่วยอะไรไหมครับ/ค่ะ” และลูกค้ามักจะตอบว่า “ใช่” ตามด้วยความต้องการของลูกค้า ข้อ 2. จึงถูกต้อง
8. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I hope you don’t mind 2. This style was sold out
3. I think you’d better not 4. I’m afraid you can’t
ตอบข้อ 4. I’m afraid you can’t
คำอธิบาย พนักงานขาย : ....... เพราะเสื้อตัวนี้ลดราคาอยู่ครับ
แอนดี้ : งั้นขอพูดกับผู้จัดการหน่อยได้ไหม
จากเหตุผลที่พนักงานขายบอกว่าเสื้อตัวนี้ลดราคา และแอนดี้ขอพบผู้จัดการแสดงว่าพนักงานขายต้องบอกว่า ทำอะไรบางอย่างไม่ได้ ข้อ 4. จึงถูกต้อง “เกรงว่าคุณจะทำไม่ได้ครับ” คำว่า “I’m afraid” จะใช้เกริ่นก่อนที่จะบอกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผู้ฟังอาจจะไม่พอใจหรือผิดหวัง
9. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. what’s the problem 2. what’s wrong with you
3. do you have any reason 4. may I return your shirt
ตอบข้อ 1. what’s the problem
คำอธิบาย พนักงานขาย : “ต้องขอโทษครับ ผู้จัดการไม่อยู่ครับ เอ้อ .......?”
แอนดี้ : “มีรอยหมึกอยู่บนปกเสื้อตัวนี้”
จากคำตอบของแอนดี้ที่ว่า “มีรอยหมึกที่ปก” แสดงว่าพนักงานขายน่าจะถามว่ามีปัญหาอะไร ข้อ 1. ถูกต้อง
10. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. It’s not our responsibility
2. I’m sorry to see you
3. You cant’ put the blame on us
4. In that case, we can get you a new one
ตอบข้อ 4. In that case, we can get you a new one
คำอธิบาย พนักงานขาย : ........................................
แอนดี้ : ขอเงินคืนไม่ได้หรือ
พนักงานขาย : ............... เราให้เปลี่ยนได้เท่านั้นครับ
แอนดี้ : งั้นก็ตกลง ขอบคุณ
จากคำพูดต่อมาที่พนักงานขายบอกกับแอนดี้ว่าเปลี่ยนได้เท่านั้น ในข้อนี้พนักงานขายจึงน่าจะเสนอวิธีการแก้ปัญหาด้วยการจะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ ข้อ 4. จึงถูกต้อง
11. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I don’t think that’s possible 2. I can’t make a decision now
3. I’m only an employee here 4. I don’t want to argue with you
ตอบข้อ 1. I don’t think that’s possible
คำอธิบาย จากบทสนทนาที่พนักงานขายเสนอที่จะเปลี่ยนได้ และแอนดี้ขอคืนเงิน ต่อมาพนักงานขายบอกว่า เปลี่ยนได้เท่านั้น พนักงานขายน่าจะพูดว่าคืนเงินไม่ได้ ข้อ 1. จึงถูกต้อง
Conversation 3 : Jinda, who has just arrived in Engloand, is very thirsty and wants to buy a drink from a vending machine.
Jinda : Excuse me, have you got any change?
Kate : Let me see ............... (12) ...............?
Jinda : For this vending machine. I haven’t got a 50 pence coin.
Kate : I’m sorry. I haven’t got any change either. Actually, you can use a pound coin in it. It will give you change.
Jinda : Oh, I see. Er ....... I’m sorry to trouble you again. ............... (13) ...............?
Kate : Sure. What would you like?
Jinda : A can of orange juice.
Kate : Insert the coin into this slot and ............... (14) ............... . There it goes.
Please don’t forget to pick up the change.
Jinda : Thank you very nuch.
Kate : ............... (15) ............... .
บทสนทนา 3 : จินดาเพิ่งเดินทางถึงประเทศอังกฤษ และรู้สึกกระหายและต้องการจะซื้อเครื่องดื่มจากตู้หยอดเหรียญ (vending machine)
12. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. What are you looking for 2. Who are you waiting for
3. What do you need it for 4. Which coin do you ask for
ตอบข้อ 3. What do you need if for
คำอธิบาย บทสนทนาเริ่มด้วย
จินดา : ขอโทษค่ะ คุณพอมีเศษสตางค์ (change) ไหมค่ะ
เคท : ขอดูก่อนนะคะ ....................?
จินดา ; สำหรับ (for) ตู้หยอดเหรียญเครื่องนี้ค่ะ ดิฉันไม่มีเหรียญ 50 เพน
จินดาตอบว่าสำหรับตู้หยอดเหรียญ เคทจึงน่าจะถามว่า ต้องการเศษสตางค์ไปทำไม ข้อ 3. จึงถูกต้อง “คุณต้องการเศษสตางค์ไปทำไม” คำว่า What .......... For?
13. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Can you show me how it works 2. Would you do me a favor
3. Do you have some fizzy drinks 4. May I use a pound coin
ตอบข้อ 1. Can you show me how it workd
คำอธิบาย เคท : ขอโทษค่ะ ดิฉันก็ไม่มีเศษสตางค์เหมือนกัน จริงๆ แล้วคุณก็ใช้เหรียญปอนด์หยอดได้เหมือนกันนะ ตู้ก็จะทอนสตางค์ให้คุณ
จินดา : อ๋อ เข้าใจล่ะ (I see) เอ้อ ............... ขอโทษที่ต้องรบกวนอีกครั้งหนึ่ง ....................?
เคท : ได้เลย (sure) คุณจะดื่มอะไรล่ะ
จินดา : น้ำส้มกระป๋องหนึ่งค่ะ
ดูจากเคทตอบว่า ได้เลย และขอรบกวนอีกครั้ง แสดงว่าจินดาน่าจะขอร้องให้ช่วยบางอย่าง ดูจากบทสนทนาที่ต่อเนื่องมา เคทพูดถึงวิธีการหยอดเหรียญ จินดาคงจะขอให้เคทแสดงวิธีใช้ตู้หยอดเหรียญ ข้อ 1. จึงถูกต้อง
14. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. wait for a while 2. pick up a can
3. collect a cup near the slot 4. press this button
ตอบข้อ 4. press this button
คำอธิบาย เคท : หยอด (insert) เหรียญเข้าไปในช่องหยอดเหรียญ (slot) และ ............... นั่นไงลงไปแล้ว (There it goes) อย่าลืมหยิบเศษสตางค์นะคะ
จากประโยคหลังที่นั่นไงลงไปแล้ว แสดงว่าข้อนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการหยอดเหรียญอยู่ ยังไม่สิ้นสุดการหยอดเหรียญ ข้อ 4. จึงถูกต้อง
15. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. No worry 2. Not at all
3. Some to you 4. Good luck
ตอบข้อ 2. Not at all
คำอธิบาย จินดา : ขอบคุณมากค่ะ
เคท : ....................
จินดากล่าวขอบคุณ เคทจึงน่าจะตอบกว่า ไม่เป็นไร ข้อ 2. จึงถูกต้อง “Not at all” = ไม่เป็นไร ใช้ตอบรับคำขอบคุณ
Conversation 4 (16-17)
Maureen : The mail-carrier just brought as registered package for you.
It’s from Japan.
Wenday : I haven’t been expecting anything. Oh, ............... (16) ............... . I was told that she’d moved to Toky.
Maureen : ............... (17) ............... .
Wendy : Her husband is doing some research in biology.
บทสนทนา 4 : เป็นสนทนาระหว่างเพื่อนสองคนเกี่ยวกับพัสดุไปรษณีย์ที่ได้รับ
16. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. It will be forwarded 2. It’s the wrong address
3. It can be a nice change 4. It must be from my cousin, Betty
ตอบข้อ 4. It must be from my cousin, Beety
คำอธิบาย บทสนทนาเริ่มด้วย
มอรีน : บุรุษไปรษณีย์ (mail-carrier) เพิ่งมาส่งพัสดุลงทะเบียนของคุณ
พัสดุมาจากญี่ปุ่น
เวนดี้ : “ฉันไม่ได้กำลังคอยอะไรอยู่นี่ โอ้ .......... มีคนบอกฉันว่าเธอย้ายไปอยู่โตเกียว
จากการอุทานว่า “โอ้” แสดงว่ามีการคาดเดาเกินขึ้นว่าน่าจะเป็นใคร ข้อ 4. “มันคงจะมาจากลูกพี่ลูกน้องฉันที่ชื่อ “เบ็ตตี้” ” จึงถูกต้อง
17. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Who’s she going with? 2. What’s she doing there?
3. What does she do for a living? 4. How long has she been there?
ตอบข้อ 2. What’s she doing there?
คำอธิบาย มอรีน : “....................”
เวนดี้ : “สามีไปทำวิจัยทางด้านชีววิทยาที่นั่น”
จากคำตอบของเวนดี้ว่าสามีของลูกพี่ลูกน้องไปทำวิจัยที่ญี่ปุ่น มอรีนจึงน่าจะถามว่าเธอไปทำอะไรที่ญี่ปุ่น ตรงกับ ข้อ 2. ถูกต้อง
Conversation 5 (18-22)
Laura : ............... (18) ............... . Doing the test is horrible.
Donna : ............... (19) ............... . And what did your instructor ............... (20) ...............?
Laura : He said I have to work harder and see him more.
Donna : Why don’t you ............... (21) ...............?
Laura : Do you really think so? I’m so nervous.
Donna : Sure, ............... (22) ............... .
บทสนทนา 5 : เป็นบทสนทนาระหว่างเพื่อนคนหนึ่งที่สอบตกและเพื่อนอีกคนให้กำลังใจให้ไปสอบอีกครั้ง
18. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I’m doing well 2. I’ve failed twice
3. I got off to a flying start 4. I took it as a grain of salt
ตอบข้อ 2. I’ve failed twice
คำอธิบาย ลอร่า : “.......... การสอบเป็นสิ่งที่แย่มาก (horrible)”
ถ้าลอร่าคิดว่าการสอบเป็นสิ่งที่แย่มากแสดงว่าเธอต้องทำข้อสอบได้ไม่ดี ข้อ 2. จึงถูกต้อง (I’ve failed twice)
19. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I’m feeling a bit out of softs
2. I’ll never be able to clarify it
3. I really think it’s at the deep end
4. I know exactly what you’re talking about
ตอบข้อ 4. I know exactly what your’re talking about
คำอธิบาย ดอนน่า : “.......... และครูที่สอนพูดว่าอย่างไร”
ตอนน่าน่าจะแสดงความเห็นใจกับการสอบตกของลอร่า ข้อ 4. จึงถูกต้อง “ฉันเข้าใจดีว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
20. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. talk 2. tell
3. say 4. speak
ตอบข้อ 4. spaek
คำอธิบาย ลอร่า : “ครูพูดว่าฉันต้องทำงานหนักขึ้นและไปพบครูบ่อยขึ้น”
ดูจากคำตอบของลอร่าที่ใช้ “said” ดออน่าจึงน่าจะถามว่า ครูพูดว่า (say) อะไร ข้อ 4. จึงถูกต้อง
21. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. call it a day 2. make a short at it
3. give it another try 4. put your faith in it
ตอบข้อ 3. give it anther try
คำอธิบาย ดอนน่า : ทำไมเธอไม่ ...............
ลอร่า : คุณคิดอย่างงั้นจริงๆ หรือ ฉันกังวลใจ (nervous) มากจริงๆ
ดูจากคำตอบของลอร่า ดอนน่าจะแนะนำให้ลองอีกสักครั้งหนึ่ง สำนวน “Why don’t you + V1?” ใช้ในการเสนอแนะ ดังนั้น ข้อ 3. มีความหมายเข้ากับบทสนทนามากที่สุด
22. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. second to none 2. two’s compamy
3. third time lucky 4. first come, first serve
ตอบข้อ 3. third time lucky
คำอธิบาย ดอนน่า : แน่นอน ...............
ดูจากบทสนทนา ลอร่าดูจะไม่มั่นใจในการสอบอีกครั้งเธอจะทำได้ เธอสอบตกมา 2 ครั้ง ถ้าสอบอีกครั้งจะเป็นครั้งที่ 3 ดังนั้น ดอนน่าน่าจะบอกว่า ทำอะไรครั้งที่ 3 ถือว่าโชคดีนะ ข้อ 3. จึงถูกต้อง “third time lucky” = ครั้งที่ 3 โชคดี
Conversation 6 (23-27)
Salesman : Good morning, sir. Can I help you?
Customer : Yes, I’d like to return this blouse I bought here the other day.
Salesman : ............... (23) ..............., sir?
Customer : Not really. I bought this blouse for my daughter, but she has.
Already had one. I’d like a refund.
Salesman : Oh, I’m afraid we don’t have a refund policy. Would you like to look for
Another style or color for her, sir?
Cutstomer : Mmmm. ............... (24) ............... . I’m afraid I might not be able to choose something that would fit her ............... (25) ...............?
Salesman : Actually, if you have a receipt with you, you can exchange the blouse for anything you like in any department, say .......... you can get a shirt for yourself, ............... (26) ............... that its price is not more than the price of this blouse.
Customer : Oh great ............... (27) ............... . Thank you.
บทสนทนา 6 : เป็นบทสนทนาระหว่างลูกค้ากับพนักงานขาย ลูกค้าต้องการนำเสื้อมาคืนแต่พนักงานขอยบอกว่าคืนเงินให้ไม่ได้ แต่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนได้
23. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Why don’t you want it 2. What do you want it for
3. Was there a problem with it 4. Why do you see the problem
ตอบข้อ 3. Was there a problem with it
คำอธิบาย พนักงานขาย : “สวัสดีครับท่าน จะให้ช่วยอะไรไหมครับ”
ลูกค้า : “ใช่ ผมอยากคืนเสื้อที่ซื้อจากที่นี่ไปเมื่อวันก่อน”
พนักงานขาย : “.................... ครับ”
ลูกค้า : “ก็ไม่เชิงนักหรอก (not really) ผมจะซื้อเสื้อตัวนี้ให้กับลูกสาวผม แต่เธอมีอยู่แล้ว ผมเลยอยากได้เงินคืน (a refund)”
ดูจากบทสนทนา พนักงานขายน่าจะถามว่า เสื้อที่ซื้อไปเป็นอะไรจึงจะนำมาคืนและจากคำตอบของลูกค้าว่า “ไม่เชิงนักหรอก” แล้วตามด้วยเหตุผลของการมาคืน ข้อ 3. “มีปัญหาอะไรกับเสื้อตัวนี้หรือเปล่าครับ” ถูกต้อง
24. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I think so 2. You are sure
3. I won’t agree 4. I don’t think so
ตอบข้อ 4. I don’t think so
คำอธิบาย พนักงานขาย : “ผมเกรงว่า (I’m afraid) เราไม่มีนโยบายคืนเงินครับท่าน ท่านจะลองหาแบบอื่นหรือสีอื่นให้กับเธอไหมครับ”
ลูกค้า : เออ ....... ผมเกรงว่า ผมอาจจะไม่สามารถที่จะเลือกอะไรที่เหมาะกับเธอ
ดูจากประโยคหลังที่บอกว่า อาจจะเลือกเสื้อได้ไม่ถูกใจลูกสาว ลูกค้าจึงน่าจะพูดว่า ไม่อยากเลือกแบบอื่น เพราะกลัวจะไม่ถูกใจ ข้อ 4. “I don’t think so” = คงจะไม่ล่ะ
25. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. What else
2. What would I care
3. What would you suggest me to de
4. What a threat could I receive from this store
ตอบ 3. What would you seggest me to de
คำอธิบาย ลูกค้า : เออ คงจะไม่ล่ะ ผมเกรงว่า ผมอาจไม่สามารถที่จะเลือกอะไรที่เหมาะกับเธอ ....................
พนักงานขาย : “จริงๆ แล้ว ถ้าท่านมีใบเสร็จ (receipt) ท่านสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวนี้กับอะไรในแผนกไหนก็ได้ที่ท่านชอบ .......”
จากบทสนทนาเมื่อลูกค้าบอกว่าไม่อยากเปลี่ยนอะไรให้กับลูกสาวแล้ว ลูกค้าน่าจะถามว่า แล้วจะแนะนำให้ทำอย่างไร และดูจากคำตอบของพนักงานขายก็ให้คำแนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ข้อ 3. คุณจะแนะนำให้ผมทำอย่างไร
26. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. or please understand 2. but please make sure
3. and you have to certify 4. and then I try to remember that
ตอบข้อ 2. but please make sure
คำอธิบาย พนักงานขาย : “....... ท่านอาจจะเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิร์ตของท่านเอง ....... ว่าราคานั้นต้องไม่เกินราคาของเสื้อผ้าที่นำมาเปลี่ยน”
ดูจากบทสนทนาพนักงานขายน่าจะเตือนว่าต้องแน่ใจว่า ราคาไม่เกินเสื้อตัวที่มาเปลี่ยน ข้อ 2. “แต่ต้องแน่ใจ (make sure)” ถูกต้อง
27. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I’ll have a look 2. I may remember it
3. I doubt if need to buy it 4. You may have to look at it
ตอบข้อ 1. I’ll have a look
คำอธิบาย ลูกค้า : “เยี่ยมเลย ............... ขอบคุณ”
จากบทสนทนา แสดงว่าลูกค้าพอใจกับคำแนะนำของพนักงานขาย ข้อ 1. “งั้นผมจะไปดู (have a look)” ถูกต้อง
Conversation 7 (28-30)
Waitress : Are you ready to order, sir?
Paul : We’re new customers here, so ............... (28) ...............?
Waitress : Our specialty is seafood, sir.
Paul : ............... (29) ............... .
Waitress : How about beef, sir? We’re got roasted beef, and a large selection of steak.
Paul : Well, I think I’ll have beef curry and rice.
Waitress : That’s excellent, sir.
Paul : Linda, would you like some fish?
Linda : That’s my favorite. But ............... (30) ............... .
Paul : Madam, may I recommend our seafood with Thai dressing?
Linda : Great. I like spicy dressing.
Waitress : Certainly, madam. Will you have it with rice?
Linda : Yes, please.
28. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Would you be nice to us
2. Will you make a decision
3. Can I have more information
4. What specialty would you recommend
ตอบข้อ 4. What specialty would you recommend
คำอธิบาย พนักงานเสริฟ : “คุณพร้อมที่จะสั่งหรือยังค่ะ”
พอล : “เราเป็นลูกค้าใหม่ที่นี่ ดังนั้น ...............”
พนักงานเสริฟ : “อาหารพิเศษ (specialty) ของเราคืออาหารทะเลค่ะ”
ดูจากบทสนทนาพอลบอกว่า เป็นลูกค้าใหม่ และจากคำตอบของพนักงานเสริฟที่ตอบ “อาหารพิเศษของเรา” ข้อ 4. “คุณจะแนะนำ (recommend) อาหารพิเศษประจำร้าน (specialty) อะไร”
29. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. Let’s try it first 2. Seafood is my favorite
3. I’m not very fond of fish 4. That’s why there’s no empty table
ตอบข้อ 3. I’m not very foun of fish
คำอธิบาย พอล : “....................”
พนักงานเสริฟ : “แล้วเนื้อละค่ะ (How about beef?) เรามีเนื้อย่าง และมีสเต็กให้เลือกมากมายค่ะ”
พอล : “งั้น ผมขอสั่งแกงเผ็ดเนื้อกับข้าวก็แล้วกัน”
พนักงานเสริฟ : “ได้เลยค่ะ”
จะเห็นว่า พนักงานเสริฟอาหารจานเนื้อให้ แสดงว่า พอลไม่ชอบอาหารทะเล
ข้อ 3. “ผมไม่ค่อยชอบปลาเท่าไร” to be fond of = ชอบ
30. เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
1. I still have no idea 2. I’m not served yet
3. I’ve been here before 4. I don’t know about cooking
ตอบข้อ 1. I still have no idea
คำอธิบาย พอล : “ลินดา คุณอยากลองปลาสักหน่อยไหม”
ลินดา : “นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบแต่ ....................”
พนักงานเสริฟ : “ขออนุญาตแนะนำอาหารทะเลของเรากับน้ำจิ้ม (dressing) แบบไทยของเรา
ลินดา : “เยี่ยมเลย ฉันชอบน้ำจิ้มแบบเผ็ดอยู่เชียว”
พนักงานเสริฟ : “ได้เลยค่ะ จะทานกับข้าวไหมค่ะ”
ลินดา : “ค่ะ”
ดูจากบทสนทนาที่ลินดาขึ้นว่า “แต่” และต่อมาพนักงานเสริฟก็ขอแนะนำ (recommend) แสดงว่าลินดานึกไม่ออกว่าจะเป็นอาหารทะเลแบบใด ข้อ 1. “ฉันยังนึกไม่ออกเลย” จึงถูกต้อง
การแนะนำตนเองและผู้อื่น (Introducing Oneself and Others)
การแนะนำตนเอง
Let me introduce myself. ขอแนะนำตัวเอง
May I introduce myself? ขอแนะนำตัวเอง
I’m/My name’s Udom Chaiyo. ผมชื่ออุดม ไชโย
I'm Thai. ฉันเป็นคนไทย
I'm from Thailand. ผมมาจากประเทศไทย
I'm a student at …….. College. ฉันเป็นนักเรียนที่วิทยาลัย …..
I study at …………… College. ผมเรียนอยู่ที่วิทยาลัย …..
I’m teaching at …………… College. ผมสอนอยู่ที่วิทยาลัย …..
I’m a teacher of ….. at ….. College. ผมเป็นครูวิชา ….. ที่วิทยาลัย …..
I work at ….. College. ฉันทำงานที่วิทยาลัย …..
I live in Chonburi. ผมอยู่ชลบุรี
I'm in the first year. ผมอยู่ปี 1
I'm a second year student. ฉันเป็นนักเรียนปี 2
I study ………………. ผมเรียนสาขา ……..
My field of study is …………. สาขาวิชาที่ผมเรียนคือ …………
My college is in Rayong. วิทยาลัยฉันอยู่ที่ระยอง
อื่น ๆ
Certificate of Vocational Education ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
Diploma of Vocational Education ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
การแนะนำผู้อื่น
This is Peter. นี้คือปีเตอร์
I'd like you to know Peter. ผมอยากให้คุณรู้จักปีเตอร์
I'd like to introduce you to Wanna. ผมอยากแนะนำคุณให้รู้จักวรรณา
I want to introduce my friend May. ผมอยากจะแนะนำเมย์เพื่อนผม
I want you to meet my friend John. ผมอยากให้คุณพบจอห์นเพื่อนผม
Here's Sawat and that's Suphon. นี่สวัสดิ์ และนั่นสุพล
คำแสดงความยินดีที่ได้รู้จัก ได้แก่
(It’s) nice/good to meet/see you.
(I’m) pleased to meet/see you.
(I'm) glad to meet/see you.
It's a pleasure to meet you.
การตอบ ให้เพิ่มคำว่า too ที่หมายถึง 'เช่นเดียวกัน’ เช่น
Nice to see you, too. ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกัน
การให้และขอข้อมูลส่วนบุคคล (Giving and Asking for Personal Information)
ข้อมูลส่วนตัว
How old are you? คุณอายุเท่าไร
(I'm) seventeen. ผมอายุ 17 ปี
How tall are you? คุณสูงเท่าไร
I'm 170 centimeters tall. ฉันสูง 170 ซ.ม.
How much do you weigh? คุณหนักเท่าไร
(I weigh) 65 kilograms. (ผมหนัก) 65 กิโลกรัม
ข้อมูลครอบครัว
How many people are there in your family? มีกี่คนในครอบครัวคุณ
How many brothers and sisters do you have? คุณมีพี่น้องกี่คน
I have 2 brothers/sisters. ผมมีพี่น้องผู้ชาย/หญิง 2 คน
I don't have any brothers or sisters. ผมไม่มีพี่น้องเลย
There are 7 people in my family. ครอบครัวผมมี 7 คนด้วยกัน
My grandparents live with us. ปู่ ย่า (ตา ยาย) อยู่กับเราด้วย
What does your father do? พ่อคุณทำงานอะไร
My father is a teacher. พ่อผมเป็นครู
Does your mother work? แม่คุณทำงานหรือเปล่า
She works with government. แม่เป็นข้าราชการ
She doesn't work. แม่ไม่ได้ทำงาน
What do you want to be (in the future)? คุณอยากเป็นอะไร (ในอนาคต)
I want to be a pilot. ผมอยากเป็นนักบิน
I haven't decided yet. ยังไม่ได้ตัดสินใจ
การขอบคุณ (Thanking)
การขอบคุณ สำนวนที่ใช้ในการขอบคุณ ได้แก่
Thanks you (very much). ขอบคุณ (มาก)
Thanks (a lot). ขอบใจ (มาก)
Thank you for …………….. ขอบคุณสำหรับ เช่น
Thank you for your present. ขอบคุณสำหรับของขวัญ
Thank you for everything. ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
Thank you for your help. ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ
I really appreciate that. ผมรู้สึกประทับใจจริง ๆ
การตอบรับคำขอบคุณ
You’re welcome. ไม่เป็นไร
Don't mention it. ไม่เป็นไร
Not at all. ไม่เป็นไร
It's nothing. ไม่เป็นไร
That's all right. / That's O.K. ไม่เป็นไร
(It's) a pleasure. ด้วยความยินดี
My pleasure./With pleasure. ด้วยความยินดี
Don’t worry (about it). อย่ากังวลไปเลย
No problem. ไม่มีปัญหา
การขอโทษ (Apologizing)
การขอโทษ สำนวนที่ใช้ในการขอโทษ ได้แก่
I’m sorry. ผมขอโทษ
I’m sorry. I’m late. ขอโทษที่มาช้า
I’m sorry I troubled you. ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบาก
Excuse me, please. ขอโทษครับ/ค่ะ
Excuse me for interrupting. ขอโทษที่รบกวน
Excuse me for a moment. ขอโทษขอเวลาสักครู่
การให้อภัย สำนวนที่ใช้ในการตอบรับคำขอโทษ
That’s all right. ไม่เป็นไร (ตอบรับคำขอโทษ)
Don’t worry (about it). อย่ากังวลไปเลย
No problem. ไม่มีปัญหา
That's O.K. หรือ I'm O.K. ไม่เป็นไร หรือ ผมไม่เป็นไร
การถามเวลา (Asking for Time)
การถาม
Excuse me. What time is it? ขอโทษครับ กี่โมงแล้วครับ
Could you tell me the time, please? ขอโทษครับกี่โมงแล้ว
Do you have a time? กี่โมงแล้ว (คุณมีนาฬิกาไหม)
การตอบ
(It's) seven o'clock. 7 นาฬิกา
Six twenty/Twenty past six 6.20
Five to four/Three fifty-five 3.55
A quarter past eight/Eight fifteen 8.15
Half past ten/Ten thirty 10.30
A quarter to ten/Nine forty-five 9.45
Noon เที่ยงวัน
Midnight เที่ยงคืน
In the morning ตอนเช้า
In the afternoon ตอนบ่าย
In the evening ตอนเย็น
At night ตอนกลางคืน
การถามชื่อ ที่อยู่และการเรียน (Asking about Name, Address, Study and Work)